คนไทยตื่นรู้

💰💵เมื่อ FDA รับทรัพย์ รับเงินผลประโยชน์มานานมากแล้ว โลกจึงโดนหลอก ว่า "ไขมันสัตว์เลว ไขมันพืชดี"😱

บริษัทบุหรี่😈 ใช้นักวิทยาศาสตร์เก่งๆคิดค้นผลิตสูตรเคมี เพื่อทำให้บุหรี่ติดง่ายขึ้น หลังจากเจอแรงกดดันและคนเริ่มรู้ว่าบุหรี่อันตราย บริษัทบุหรี่จึงเข้าไปซื้อบริษัทผลิตอาหารยักษ์ใหญ่ของโลก ใช้นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้น คิดสูตรให้คนเสพติดอาหารได้ง่ายขึ้น และเอาส่วนผสมเหล่านั้นมาใช้ในอาหารแปรรูป ตั้งใจให้เด็กติดงอมแงม สร้าง "ลูกค้าถาวรตลอดชีวิต"

ด้วยความรวยจึงจ่ายเงินใต้โต๊ะหรือให้ผลประโยชน์ต่างๆนานากับ FDA, USDA รวมไปถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น Harvard, Standford ✨เพื่อให้ตั้งธงผลิตงานวิจัยที่ส่งเสริมยอดขายของบริษัทตนเอง (คาร์โบไฮเดรตดี น้ำตาลไม่เป็นอันตราย) รวมถึงบิดเบือนข้อมูลว่า ไขมันสัตว์ไม่ดี น้ำมันพืชดีกว่า

จอห์น ดี ร็อคเคเฟลเลอร์ 💰😈 มหาเศรษฐีน้ำมันผู้มากอิทธิพล ใช้อำนาจเงินเข้าล็อบบี้ FDA เพื่ออนุมัติให้น้ำมันพืชถูกนำมาใช้เป็นอาหารได้ ทั้งที่มันถูกผลิตมาเพื่อใช้ "หล่อลื่นเครื่องจักร" แต่การเอามาขายให้คน มันได้ยอดขายเยอะกว่า!

มันเป็นสัจธรรม!💰อำนาจเงินซื้อได้ทุกสิ่ง!! แม้กระทั่ง FDA WHO ☠องค์การอนามัยโลก

อเมริกาได้ทำการตัดต่อพันธุกรรม และจดสิทธิบัตรไวรัสโคโรน่าหลายหลากสายพันธุ์มานานหลายสิบปีแล้ว และพยายามปกปิดเรื่องนี้ไม่ให้ใครรู้

หลังจากจดสิทธิบัตรไวรัสได้สำเร็จ ก็ตามมาด้วยการผลิตวัคซีน ซึ่งทำกำไรมหาศาลให้แก่บริษัทผลิตวัคซีน โดยแรกเริ่ม ใช้วิธีปล่อยไวรัสให้กระทบกับหมูและหมา และสร้างวัคซีนมาฉีดหมูหมาก่อน หลังจากนั้นจึงเริ่มวางแผนทำแบบเดิม แต่มามุ่งเป้าสู่คน

Tucker Carlson สัมภาษณ์ Dr Pierre Kory เรื่องทำไมหมอส่วนใหญ่จึงยังไม่ตื่นรู้

Dr. Kory ตอบว่า เพราะหมอเชื่อผลวิจัยจากวารสารหลักดังๆระดับโลกว่าเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือและจริง ตัวหมอเองก็เคยเชื่อเช่นนั้นเช่นกัน แต่หลังจากเกิดสถานการณ์โควิด หมอได้ค้นพบว่า วารสารทางการแพทย์เหล่านั้น ถูกครอบงำโดยอุตสาหกรรมยาอย่างสิ้นเชิง และได้ถูกครอบงำมานานแล้วด้วย

https://t.me/awakened_thailand/261 อย.รับเงินจากบริษัทยา! แอบถ่าย จนท.องค์การอาหารและยา

https://t.me/awakened_thailand/420 การล้างสมองแพทย์ผ่านหลักสูตรที่ควบคุมโดยบริษัทยา (ของตระกูลรอคเคเฟลเลอร์)

ทฤษฎีอธิบายกระบวนการเกิด " White Clot" หลังฉีดวัคซีน

โดยปกติ ร่างกายจะก่อและสลายลิ่มเลือดไฟบริน (fibrin) อย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อเกิดการอุดตัน เอนไซม์ที่ร่างกายที่ใช้ในการสลายลิ่มเลือดจะไม่สามารถเข้าไปจับกับตัวจับ (enzyme receptor )ได้อีกต่อไป และด้วยเหตุนี้ จึงไม่สามารถสลายลิ่มเลือดได้ เนื่องจากโปรตีนหนามทำให้โปรตีนพับผิด (ไม่ว่าจะเนื่องมาจาก โปรตีนหนามในตัวของมันเองหรือปรากฏการณ์ Zeta ซึ่งก็คือศักยภาพของสารที่จะแขวนตัวในของเหลว) นักวิจัยจึงค้นพบว่าการมีอยู่ของโปรตีนหนามทำให้เกิดลิ่มเลือดไฟบรินที่พับผิดรูปแบบซึ่งค่อยๆ รวมตัวกันบนผนังของภาชนะที่ออกแบบมา เพื่อจำลองหลอดเลือดที่มีชีวิต เพราะฉะนั้นหากกระบวนการนี้ดำเนินต่อไป จะส่งผลให้เกิดลิ่มเลือดที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในที่สุดจะเข้ากับรูปร่างของหลอดเลือดที่ห่อหุ้มไว้ การวิจัยดังกล่าวได้กลายเป็นคำอธิบายที่เป็นที่ยอมรับสำหรับก้อน "white clot" เหล่านั้น


อีกคำอธิบายคือเรื่องของ ศักยภาพของซีต้า(Zeta Potential) ซึ่งก็คือความสามารถในการควบคุมสารที่แขวนลอยอยู่ในของเหลวให้แยกออกจากกันหรือจับตัวกันเป็นก้อน เมื่อศักย์ซีตาลดลง เซลล์เหล่านี้จะรวมตัวกันเป็นก้อน ดังนั้นเนื่องจากทั้งโปรตีนหนามและอนุภาคนาโนของไขมันในวัคซีนมีประจุบวก ซึ่งทำให้ศักยภาพซีตาลดลง จึงมีวิดีโอจำนวนมากที่มีโปรตีนในเลือดรวมตัวกันอย่างรวดเร็วจากวัคซีน สิ่งนี้จึงเป็นสาเหตุของ "White Clot" ที่เราพบซ้ำๆ ในเลือดหลังการฉีดวัคซีนและหลังการดองศพ

เพราะฉะนั้น สรุปทฤษฎีการเกิด "White Clot" เกิดขึ้นได้จาก 2 สาเหตุ
1. โปรตีนหนามในตัวของมันเอง ซึ่งทำให้เกิดการม้วนพับผิดปกติของโปรตีน แล้วไปขวางการทำงานของเอนไซม์ที่ย่อยสลายลิ่มเลือด

2. เกิดจาก ศักยภาพซีต้าที่ลดลง ทำให้สารแขวนลอยในเลือด จับตัวกันเป็นก้อน สาเหตุที่ศักดิ์ซีต้าลดลง มาจาก ประจุบวก ของโปรตีนหนามและ อนุภาคนาโนของไขมันในวัคซีน( lipid nanoparticle)

สรุปทฤษฎีการเกิด "White Clot" เกิดขึ้นได้จาก 2 สาเหตุ
1. โปรตีนหนามในตัวของมันเอง ซึ่งทำให้เกิดการม้วนพับผิดปกติของโปรตีน แล้วไปขวางการทำงานของเอนไซม์ที่ย่อยสลายลิ่มเลือด

2. เกิดจาก ศักยภาพซีต้าที่ลดลง ทำให้สารแขวนลอยในเลือด จับตัวกันเป็นก้อน สาเหตุที่ศักดิ์ซีต้าลดลง มาจาก ประจุบวก ของโปรตีนหนามและ อนุภาคนาโนของไขมันในวัคซีน( lipid nanoparticle)

รายละเอียดเพิ่มเติมในข้อความด้านล่าง

การศึกษาวัคซีนที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เผยให้เห็นสิ่งที่ "นักทฤษฎีสมคบคิด" พูดมาตลอด

นักวิทยาศาสตร์พบว่ามีความเสี่ยงที่ร้ายแรงเพิ่มขึ้นอย่างมากเรื่องสุขภาพในด้านต่างๆ  แต่กลับพาดหัวข่าวแนะนำว่า "เล็ก" และ "หายาก"

โมเดอร์นา (โดสที่ 1):
• อาการบวมของสมองและไขสันหลัง: เสี่ยงเพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่า
• กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ: เสี่ยงเพิ่มขึ้น 3.48 เท่า
• เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ: เสี่ยงเพิ่มขึ้น 1.74 เท่า
• กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (เข็มที่2): เสี่ยงเพิ่มขึ้น 6.1 เท่า

แอสตร้าเซเนก้า:
• ลิ่มเลือด: เสี่ยงเพิ่มขึ้น 3.23 เท่า (320%)
• กลุ่มอาการ Guillain–Barré (อาจทำให้เกิดอัมพาต): เสี่ยงเพิ่มขึ้น 2.49 เท่า
• เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (เข็มที่3): เสี่ยงเพิ่มขึ้น 6.91 เท่า

ไฟเซอร์:
• กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (เข็ม1): เสี่ยงเพิ่มขึ้น 2.78 เท่า
• กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (เข็มที่2): เสี่ยงเพิ่มขึ้น 2.86 เท่า
• กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (เข็มที่3): เสี่ยงเพิ่มขึ้น 2.09 เท่า

เส้นหนวดปลาหมึก เหมือนยาง ถูกพบในเส้นเลือดมากมายในต่างประเทศ หลังจากมีการระดมฉีด 💉 เรื่องนี้หมอฝรั่งรู้กันมาเกินปีแล้ว สารคดีเรื่องนี้ก็ถูกเผยแพร่มาเป็นปี แต่สื่อหลักปิดบัง เซ็นเซอร์ และคอยดิสเครดิตหมอผู้กล้าเหล่านี้ ส่งผลให้บรรดาหมอตกงาน บางคนโดนกลั่นแกล้งดำเนินคดี...

https://t.me/awakened_thailand/415 ส่วนหนึ่งของสารคดี Died Suddenly (ตายเฉียบพลัน) เกี่ยวกับเส้นหนวดปลาหมึกในหลอดเลือด

https://t.me/awakened_thailand/416 สื่อทางเลือก กล้าที่จะพูดเรื่องการอุดตัน เส้นหนวดปลาหมึก แต่สื่อหลักโดนคุม เงียบสนิท

https://rumble.com/v1wac7i-world-premier-died-suddenly.html สารคดีฉบับเต็มเกี่ยวกับหนวดปลาหมึกอุดตัน เผยแพร่เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2022

💉😱อะลูมิเนียมถูกใช้เป็นส่วนผสมของวัคซีนมาตั้งแต่ช่วงปี 1930 โดยไม่มีใครตั้งคำถาม และเข้าใจผิดว่ามันปลอดภัย งานวิจัยมากมายบ่งบอกว่า มันเป็นพิษ กระจายไปทั่วร่างกายและไปสะสมที่สมอง

ทำไมถึงไม่มีใครบอกเราเรื่องนี้? 💰💰 "เพราะว่าวัคซีน มันกำไรงาม!!!" ยอดขายวัคซีนต่อปี สูงถึง 25,000 ล้านดอลลาร์ (9 แสนล้านบาท) ฉะนั้น เขาจะบอกเราทำไม...ก็กำไรมันงามนี่ 🙊

https://t.me/awakened_thailand/469 วัคซีนเด็กยิ่งฉีดยิ่งป่วย...กำไรงาม💵💰

https://t.me/awakened_thailand/489 คอรัปชั่นจนเป็นเรื่องปกติ บริษัทยา จ่ายเงินให้ FDA หรือ องค์การอาหารและยา US

วิธีทำให้มนุษยชาติค่อยๆโง่ลง และตายไปในที่สุด คือ การพ่นสารเคมีไกลโฟเซต (ยาฆ่าหญ้าที่นิยมในไทย) ลงในอาหารที่เราทาน (หรือใช้พ่นฆ่าหญ้าให้มันไปสะสมในดิน) พ่นอะลูมิเนียมไปในอากาศ (เคมเทรล Chem trail) ถ้ามันยังไม่พอ ก็ผสมอะลูมิเนียมลงไปในวัคซีนทุกชนิด จากนั้นใช้คลื่นความถี่ โดยใช้มือถือเป็นตัวรับสัญญาณ มันจะไปหยุดการทำงานของเอนไซม์ในร่างกาย ทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดสารพิษได้ มนุษย์จะค่อยๆ สะสมสารพิษ และตายลงไปในที่สุด แผนการนี้จะสำเร็จได้ จำเป็นต้องมีนักวิทยาศาสตร์ชั่วช้า ร่วมมือกับพวกนักการเมือง

https://t.me/awakened_thailand/414
อะลูมิเนียมในวัคซีนทุกชนิดตั้งแต่อดีตไปสะสมที่สมอง ทำให้เป็นอัลไซเมอร์ ออทิสติก

A World Gripped by Fear ( โลกที่ถูกความกลัวครอบงำ) บรรยายโดย Nick Hudson พูดถึงข้อมูลโควิดที่ถูกบิดเบือนตั้งแต่วันแรกโดยองค์การอนามัยโลก ตั้งแต่เรื่องอัตราการตาย (การใช้ตัวเลข CFR กับ IFR ที่ปะปนกัน) และเรื่องการแพร่เชื้อของผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ (ซึ่งไม่มีหลักฐานว่าจริง) เป็นการตั้งใจสร้าง "ความกลัว" เพื่อที่จะควบคุมประชาชนให้ทำตามคำแนะนำ ต่างๆนานาที่ไร้ประโยชน์เช่น การใส่หน้ากากอนามัย การล็อคดาวน์ การฉีดวัคซีนเพื่อภูมิคุ้มกันหมู่

ฟังคลิปนี้เพื่อที่จะได้เรียนรู้จากอดีตและไม่หลงกลอีกในอนาคต

https://t.me/awakened_thailand/421 การหลอกลวงคนให้กลัว...ด้วยการตรวจหาโควิดด้วย PCR เพื่อปั่นยอดคนติดหลอกๆ คลิปนี้อธิบายว่าหลอกยังไง

https://t.me/awakened_thailand/299 การใช้ "ความกลัว" และนำพาไปสู่การใส่มาสก์ที่ไม่มีประโยชน์

https://t.me/awakened_thailand/471 แค่มีเงินและอิทธิพล ก็คุม WHO องค์การอนามัยโลกได้

โฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda)
คนส่วนใหญ่คิดว่า ประเทศเช่น เกาหลีเหนือ อิหร่าน ใช้สื่อเพื่อล้างสมองคนในประเทศตนเอง แต่ไม่มีความ "เอะใจ" แม้แต่น้อย ว่าสื่อตะวันตก ได้ใช้โฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda) มายาวนาน และมีความเก่งและเนียนที่สุดในโลก โดยใช้เทคนิคหลากหลายล้างสมองเรามากว่าร้อยปีแล้ว

สื่อต่างๆ ถูกควบคุมมานาน แต่เราไม่เคยรู้ ทุกสิ่งทุกอย่างถูกผลักดันด้วย "กำไร" เป็นหลัก

ใครที่เห็นต่างและออกมาเปิดเผยความจริง จะถูกตราหน้าว่าเป็นพวก "ทฤษฎีสมคบคิด" การที่เราจะเข้าถึงข้อมูลจริงได้ อาศัยการ "เปิดใจ" รับฟังสิ่งที่เราไม่คุ้นชิน วางความรู้เก่าๆลง เริ่มศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ ค้นคว้าเจาะลงลึก แล้วค่อยกลับมาพิจารณาความรู้ใหม่ๆเหล่านี้

https://t.me/awakened_thailand/51
การใช้สื่อโจมตียาที่รักษาโควิดได้ เพื่อทำให้ทั้งโลกคิดว่า ไม่มียารักษา เพื่อที่จะเร่งฉีดวัคซีนให้คนทั้งโลก

https://t.me/awakened_thailand/494
ซีไอเอใช้สื่อล้างสมองเรามากว่าร้อยปีแล้ว

https://t.me/awakened_thailand/488 แอบถ่ายสื่อ CNN

https://t.me/awakened_thailand/489 แอบถ่าย FDA องค์การอาหารและยาของอเมริกา

นักวิจัย Igor Chulov ค้นพบ DNA ของวัคซีนไฟเซอร์แทรกอยู่ในจีโนมของมนุษย์ในผู้ป่วยที่เป็นลองโควิด
นี่เป็นหลักฐานที่พบครั้งแรกใน Genome ของมนุษย์ นักวิจัยได้เคยทำการทดลองเอาวัคซีน กับเซลล์มนุษย์มาผสมกันในหลอดทดลองแล้วพบว่า สารพันธุกรรมใน วัคซีน สามารถแทรกเข้าไปใน Genome ของเซลล์มนุษย์ได้ ทำให้เกิดการตั้งข้อสงสัยว่าแล้วในมนุษย์เป็นๆนี้ มันแทรกได้หรือไม่

ครั้งนี้เขาเอาเซลล์มนุษย์เป็นๆที่ป่วยเป็นลองโควิดมาตรวจหา สารพันธุกรรมของวัคซีนไฟเซอร์ แล้วพบว่ามันแทรกอยู่ใน genome ของผู้ป่วยที่เป็นลองโควิด เป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยนั้นสร้างโปรตีนหนามอย่างไม่หยุดหย่อนอย่างถาวร เป็นการอธิบายอาการของลองโควิด ว่ามาจากวัคซีนทำให้ DNA ของเรากลายพันธุ์แล้วสร้างโปรตีนหนามอย่างไม่หยุดหย่อน

ระดับคาร์บอนไดออกไซด์ปกติอยู่ที่ 450 - 700 ppm เมื่อลองวัดระดับคาร์บอนไดออกไซด์ระหว่างใส่มาสก์พบว่า เครื่องวัดเตือนว่าระดับขึ้นไปอยู่ในช่วงอันตรายมาก โดยขึ้นไปเกือบ 10,000 ppm! การใส่มาสก์ทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ และมีการสูดกลับมากเกินไป ในขณะเดียวกันก็ลดปริมาณออกซิเจนที่ร่างกายควรจะได้รับ (เมื่อร่างกายได้รับออกซิเจนน้อย แต่ได้คาร์บอนไดออกไซด์เยอะ จะทำให้ภูมิคุ้มกันตก!! ร่างกายยิ่งอ่อนแอลง)

คลิปมาสก์ไม่ช่วยกันละอองลอย ฉะนั้นมันก็ไม่กันไวรัส https://t.me/awakened_thailand/297

คลิปนักวิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นว่า รูบนมาสก์มีขนาดใหญ่กว่าไวรัสสิบเท่าร้อยเท่า มาสก์กันไวรัสไม่ได้ เพราะมันทะลุผ่านมาสก์ได้ง่ายมาก
https://t.me/awakened_thailand/296

คลิปมาสก์เป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรีย และทำให้แบคทีเรียลงปอด https://t.me/awakened_thailand/300

คุณหมอแสดงให้เห็นว่ามาสก์ไม่ช่วยกันไวรัส โดยการสูบ Vape แล้วพ่นออกมา ขนาดของละอองมันใหญ่กว่าขนาดของไวรัสมากมาย ฉะนั้นการใส่มาสก์ไม่ได้ช่วยป้องกันการแพร่ระบาด (คนป่วยที่ไอ และจาม ควรใส่เพื่อป้องกันน้ำลายกระเด็นไปสู่คนอื่น)

คลิปใส่มาสก์ทำให้ CO2 สูงจนเป็นอันตรายต่อร่างกาย
https://t.me/awakened_thailand/298

คลิปนักวิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นว่า รูบนมาสก์มีขนาดใหญ่กว่าไวรัสหลายสิบหลายร้อยเท่า มาสก์กันไวรัสไม่ได้ เพราะมันทะลุผ่านมาสก์ได้ง่ายมาก
https://t.me/awakened_thailand/296

คลิปมาสก์เป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรีย และทำให้แบคทีเรียลงปอด https://t.me/awakened_thailand/300

ดร.ไบรอัน ไบรเดล ผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยวัคซีนโควิด แสดงให้ดูว่า มาสก์ไม่สามารถกันละอองลอยจากลมหายใจได้ และละอองเหล่านี้ยังมีขนาดใหญ่กว่าไวรัสมาก และรูของมาสก์ที่ใส่มีขนาดใหญ่มาก (ไวรัสมีขนาดแค่ 1 ไมครอน แต่ขนาดรูของมาสก์คือ 80 - 500 ไมครอน; เปรียบเสมือนใช้กระชอนช้อนปลารูขนาดใหญ่ เอามาทำมุ้งลวดกันยุง) มันไม่สามารถกันไวรัสได้ อีกทั้งการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับมาสก์ ก็เคยสรุปก่อนโควิดว่า มาสก์ ไม่มีผลในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส

คลิปใส่มาสก์ทำให้ CO2 สูงจนเป็นอันตรายต่อร่างกาย
https://t.me/awakened_thailand/298

คลิปมาสก์ไม่ช่วยกันละอองลอย ฉะนั้นมันก็ไม่กันไวรัส https://t.me/awakened_thailand/297

คลิปมาสก์เป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรีย และทำให้แบคทีเรียลงปอด https://t.me/awakened_thailand/300

"คอเรสเตอรอล" ระบบการแพทย์ปัจจุบันคือเรื่องหลอกลวง

ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาชีวิตขัยคนอเมริกันลดลงอย่างมาก รัฐบาลอเมริกาบอกว่า สาเหตุเกิดจาก "สภาวะโลกร้อน" 😜

คนอเมริกันทานยามากกว่าประเทศอื่นๆหลายเท่าตัว ยาที่คนทานมากที่สุดคือ ยาลดคอเลสเตอรอล... ทั้งที่การลดคอเลสเตอรอล ไม่ได้ช่วยลดอัตราการเกิดโรคหัวใจเลย

คอเรสเตอรอล คือ เรื่องหลอกลวง การกินยา Statin ยิ่งทำให้เกิดโรคเบาหวาน โรคอัลไซเมอร์ แต่กลับเป็นยาที่หมอจ่ายให้คนไข้เยอะที่สุด (บริษัทยารวยเละ💵💰😌)

งานวิจัยพบว่า คนที่คอเลสเตอรอลสูง ยิ่งมีอายุยืนยาว

เลิกโดนหลอก ติดตามและศึกษาเรื่องคอเรสเตอรอลอย่างละเอียดได้ที่ FB/YouTube - Diet doctor Thailand
https://www.facebook.com/DietDoctorThailand?mibextid=ZbWKwL


https://t.me/awakened_thailand/467 คนป่วยคือลูกค้าชั้นดีของบริษัทยา กำไรล้วนๆ

https://t.me/awakened_thailand/462 นักแสดง Jim Carrey ออกรายการทีวี บอกว่า บริษัทยาจ่ายเงินให้โรงเรียนแพทย์

https://t.me/awakened_thailand/404 CDS คืออะไร ทำไมบริษัทยาถึงไม่ชอบ

ข้อมูลการเสียชีวิตของผู้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในประเทศนิวซีแลนด์...สูงถึง 21% ในบางล็อตการผลิต

Barry Young นักสถิติ กรมสาธารณสุขของประเทศนิวซีแลนด์ได้ออกมาเปิดเผยตัวเลข ภายในเรื่องอัตราการตายจากการฉีดวัคซีน Pfizer ในแต่ละขวดยา ที่บาง lot สูงถึง 21%

https://vigilantnews.com/post/nz-whistleblower-arrested-for-exposing-the-truth-heres-what-they-didnt-want-you-to-see

https://t.me/awakened_thailand/212 แพทย์เม็กซิโกใช้ CDS รักษา อาการคนป่วยหลังฉีดวัคซีน

https://t.me/awakened_thailand/404 CDS คืออะไร เป็นอันตรายหรือไม่

https://t.me/CDS_School ห้องรวมทุกข้อมูลจากต่างประเทศ (ภาษาไทย) เกี่ยวกับ CDS

การแพทย์อเมริกาโดนนายทุนควบคุมมาเป็นร้อยปี 😈

ตระกูลรอคเคเฟลเลอร์ ร่ำรวยจากอุตสาหกรรมน้ำมัน 💵💰 เข้ามาคุมสื่อ และเข้ามาสู่อุตสาหกรรมยา เพราะค้นพบว่าสามารถผลิตยาจากปิโตรเลียมได้ จากนั้นใช้อิทธิพลเข้าควบคุมการเมือง ตั้งหน่วยงานพิเศษ ใช้สื่อล้างสมองคน โดยบอกว่าวิธีการรักษาอื่นๆที่มีมาอย่างช้านานไม่มีมาตรฐาน ออกกฎหมายกำจัดการรักษาที่ไม่ใช้ยา ใช้อำนาจตำรวจจับหมอติดคุก

ให้เงินสนับสนุนแก่มหาวิทยาลัยระดับต้นๆ โจมตีการรักษาด้วยสมุนไพร พอคนใช้ยามากขึ้น คนก็เริ่มเป็นมะเร็งมากขึ้น รอคเคเฟลเลอร์ก็รีบจัดตั้งสมาคมมะเร็งของอเมริกาเพื่อมาปกปิดข้อมูล และปั้นข้อมูลเท็จ

คลอรีนไดออกไซด์ NASA เคยเรียกมันว่า ยาถอนพิษครอบจักรวาล (Universal Antidote) ดูสารคดีได้ที่ https://www.brighteon.com/cbea0547-0152-48d0-8ad8-6898a2a2a27f

คุณหมอลี เมอริท บอกว่าหากเขาติดเกาะร้าง และบนเกาะมีผู้คนมากมาย ถ้าเขาจะเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงอย่างเดียว แล้วต้องเอาไปช่วยคนเหล่านี้เวลาป่วย/บาดเจ็บ เขาจะเลือกใช้ "คลอรีนไดออกไซด์" (หรือที่รู้จักกันในชื่อ CDS) เพราะมันครอบจักรวาลจริงๆ

ผู้ทำสารคดีนี้ คือบุรุษพยาบาลในแผนกห้องไอซียู เคยพบกับบุคคลนึงที่เคยทำงานให้รัฐบาลอเมริกาในช่วงปี 1960 เขาอายุ 80 กว่าปีแล้ว และบอกว่าตอนนั้นรัฐบาลเคยทำวิจัยและตกใจมาก ว่าคลอรีนไดออกไซด์มันดีขนาดที่ว่า หากคนทุกคนดื่มมัน อายุคนน่าจะยืนถึง 100 ปี นี่คือเหตุผลที่พวกเขา (บริษัทยา) ไม่ต้องการให้คนรู้เรื่องเกี่ยวกับ คลอรีนไดออกไซด์ (เพราะคนป่วยคือลูกค้าชั้นดีของบริษัทยา)

https://t.me/awakened_thailand/404 สารคดีซับไทยส่วนนึง

https://t.me/awakened_thailand/354 องค์การนาซ่า เรียกมันว่า ยาถอนพิษครอบจักรวาล

https://t.me/awakened_thailand/342 สิทธิบัตรรักษามะเร็ง

https://t.me/awakened_thailand/423 หมออเมริกาพูดถึงคลอรีนไดออกไซด์